ในโลกคาสิโนออนไลน์ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและโอกาสทำเงิน เกมไพ่ยอดนิยมสองเกมที่มักถูกเปรียบเทียบคือ “Baccarat” และ “เสือมังกร” ทั้งสองเกมมีเสน่ห์และความท้าทายเฉพาะตัว ทำให้หลายคนสงสัยว่า ควรเลือกเกมไหนถึงจะชนะง่ายและทำเงินเร็ว? บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทั้งสองเกม ตั้งแต่กติกา ความเร็วเล่น อัตราชนะ และความเหมาะสมสำหรับมือใหม่ พร้อมแนะนำวิธีเล่นกับ FUN88 เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเกมที่ใช่และเพิ่มโอกาสชนะอย่างมืออาชีพ
ทำความรู้จักกับเกม Baccarat และ เสือมังกร
ก่อนที่เราจะไปเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละเกม เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานของบาคาร่าและเสือมังกรกันก่อน เพื่อให้เห็นภาพรวมของเกมทั้งสองอย่างชัดเจน
แนะนำเกมบาคาร่า: วิธีเล่นเบื้องต้น ต้นกำเนิด และความนิยม
บาคาร่า (Baccarat) เป็นเกมไพ่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในคาสิโนทั่วโลก รวมถึงในคาสิโนออนไลน์ในปัจจุบัน ต้นกำเนิดของบาคาร่านั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดนัก แต่เชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในอิตาลี ก่อนที่จะแพร่หลายไปยังฝรั่งเศสและกลายเป็นที่รู้จักในหมู่ชนชั้นสูง
วิธีเล่นเบื้องต้น: บาคาร่าเป็นเกมที่เล่นง่าย เป้าหมายคือการทายว่าฝั่งไหนจะมีแต้มรวมใกล้เคียง 9 มากที่สุด โดยมี 3 ตัวเลือกหลักให้เดิมพันคือ:
- ผู้เล่น (Player): เดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะเป็นฝ่ายชนะ
- เจ้ามือ (Banker): เดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะเป็นฝ่ายชนะ
- เสมอ (Tie): เดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะมีแต้มเท่ากัน
การนับแต้มในบาคาร่าจะคล้ายกับการนับแต้มไพ่ป๊อกเด้ง โดยไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม, ไพ่ 2-9 มีค่าตามหน้าไพ่, และไพ่ 10, J, Q, K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม หากผลรวมของไพ่เกิน 9 แต้ม จะนับเฉพาะเลขหลักหน่วย เช่น ได้ 15 แต้ม จะนับเป็น 5 แต้ม
ความนิยม: บาคาร่าได้รับความนิยมอย่างสูงเนื่องจากเป็นเกมที่เรียนรู้ได้ง่าย มีโอกาสชนะสูง โดยเฉพาะการเดิมพันฝั่งผู้เล่นหรือเจ้ามือ และมีบรรยากาศการเล่นที่น่าตื่นเต้น ทำให้เป็นเกมโปรดของทั้งนักพนันมือใหม่และมืออาชีพ

แนะนำเกมเสือมังกร: กติกาง่าย เล่นเร็ว มีต้นกำเนิดจากเอเชีย
เสือมังกร (Dragon Tiger) เป็นอีกหนึ่งเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในแถบเอเชีย ต้นกำเนิดของเกมนี้เชื่อกันว่ามาจากประเทศกัมพูชา และถูกออกแบบมาให้เป็นเกมที่เล่นง่ายและรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์ผู้เล่นที่ต้องการความตื่นเต้นแบบฉับไว
กติกาง่าย เล่นเร็ว: เสือมังกรมีกติกาที่เรียบง่ายกว่าบาคาร่ามาก โดยจะใช้ไพ่เพียงใบเดียวในการตัดสินผลแพ้ชนะในแต่ละรอบ ผู้เล่นเพียงแค่ทายว่าฝั่ง “เสือ” หรือ “มังกร” จะมีแต้มสูงกว่ากัน หรือจะออก “เสมอ” โดยมี 3 ตัวเลือกหลักให้เดิมพันเช่นกัน:
- เสือ (Tiger): เดิมพันว่าฝั่งเสือจะมีแต้มสูงกว่า
- มังกร (Dragon): เดิมพันว่าฝั่งมังกรจะมีแต้มสูงกว่า
- เสมอ (Tie): เดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะมีแต้มเท่ากัน
การนับแต้มในเสือมังกรจะใช้หลักการเดียวกับบาคาร่า แต่ไพ่ K จะมีค่าสูงสุด (13 แต้ม), Q (12 แต้ม), J (11 แต้ม), A (1 แต้ม) และไพ่ 2-10 มีค่าตามหน้าไพ่
ต้นกำเนิดจากเอเชีย: ด้วยความเรียบง่ายและรวดเร็ว ทำให้เสือมังกรเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในหมู่ผู้เล่นชาวเอเชีย และได้ขยายความนิยมไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์มคาสิโนออนไลน์

ความแตกต่างพื้นฐานระหว่างสองเกมนี้
แม้ว่าทั้งบาคาร่าและ Dragon Tiger จะเป็นเกมไพ่ที่เล่นง่ายและได้รับความนิยม แต่ก็มีความแตกต่างพื้นฐานที่สำคัญดังนี้:
- จำนวนไพ่ที่ใช้ตัดสิน: บาคาร่าอาจใช้ไพ่สูงสุด 3 ใบในการตัดสินผล (ตามกฎการจั่วไพ่เพิ่ม) ในขณะที่ Dragon Tiger ใช้ไพ่เพียงใบเดียว
- ความซับซ้อนของกติกา: บาคาร่ามีกฎการจั่วไพ่เพิ่มที่ค่อนข้างซับซ้อนเล็กน้อย ในขณะที่ Dragon Tiger ไม่มีกฎการจั่วไพ่เพิ่ม ทำให้กติกาเข้าใจง่ายกว่ามาก
- ความเร็วในการเล่น: Dragon Tiger เป็นเกมที่เล่นได้เร็วกว่าบาคาร่าอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากใช้ไพ่เพียงใบเดียวในการตัดสินผล
- ตัวเลือกการเดิมพัน: บาคาร่ามีตัวเลือกการเดิมพันที่หลากหลายกว่าเล็กน้อย เช่น คู่ (Pair) หรือ โบนัส (Bonus) ในบางรูปแบบของเกม
เปรียบเทียบกติกาและความเร็วในการเล่น
การทำความเข้าใจกติกาและความเร็วในการเล่นของแต่ละเกมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเลือกเกมที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของคุณ
กติกา Baccarat แบบละเอียด (ฝั่งผู้เล่น, เจ้ามือ, เสมอ)
บาคาร่ามีกติกาที่ดูเหมือนจะซับซ้อนในตอนแรก แต่เมื่อทำความเข้าใจแล้วจะพบว่าไม่ยากอย่างที่คิด โดยหลักการสำคัญคือการจั่วไพ่เพิ่มตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- การนับแต้ม:
- A = 1 แต้ม
- 2-9 = แต้มตามหน้าไพ่
- 10, J, Q, K = 0 แต้ม
- หากรวมแต้มได้ 10 ขึ้นไป ให้ใช้หลักหน่วยเป็นแต้ม เช่น 15 แต้ม = 5 แต้ม, 10 แต้ม = 0 แต้ม
- การแจกไพ่:
- ดีลเลอร์จะแจกไพ่ 2 ใบให้ฝั่งผู้เล่น (Player) และฝั่งเจ้ามือ (Banker) สลับกัน
- กฎการจั่วไพ่เพิ่ม:
- ฝั่งผู้เล่น (Player):
- ถ้าได้แต้มรวม 0-5 แต้ม: จั่วไพ่ใบที่ 3
- ถ้าได้แต้มรวม 6-7 แต้ม: อยู่ (ไม่จั่วเพิ่ม)
- ถ้าได้แต้มรวม 8-9 แต้ม: ป๊อก (ชนะทันที ไม่ต้องจั่วเพิ่ม)
- ฝั่งเจ้ามือ (Banker): การจั่วไพ่ของฝั่งเจ้ามือจะขึ้นอยู่กับแต้มรวมของฝั่งเจ้ามือเอง และไพ่ใบที่ 3 ที่ผู้เล่นจั่วได้ (ถ้ามี) ซึ่งเป็นส่วนที่ซับซ้อนที่สุดของเกม แต่ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องจำกฎนี้ทั้งหมด เนื่องจากระบบจะจัดการให้โดยอัตโนมัติ
- ฝั่งผู้เล่น (Player):
- การตัดสินผล:
- ฝั่งใดมีแต้มรวมใกล้เคียง 9 มากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ
- หากแต้มเท่ากัน ถือว่า “เสมอ”
กติกาเสือมังกรที่เข้าใจง่าย (เสือ – มังกร – เสมอ)
เสือมังกรเป็นเกมที่ออกแบบมาเพื่อความรวดเร็วและเข้าใจง่ายที่สุดในบรรดาเกมไพ่ทั้งหมด
- การนับแต้ม:
- A = 1 แต้ม (ต่ำสุด)
- 2-10 = แต้มตามหน้าไพ่
- J = 11 แต้ม
- Q = 12 แต้ม
- K = 13 แต้ม (สูงสุด)
- การแจกไพ่:
- ดีลเลอร์จะแจกไพ่เพียง 1 ใบให้ฝั่งเสือ (Tiger) และ 1 ใบให้ฝั่งมังกร (Dragon)
- การตัดสินผล:
- ฝั่งใดมีแต้มสูงกว่าเป็นฝ่ายชนะ
- หากแต้มเท่ากัน ถือว่า “เสมอ”
ระยะเวลาเฉลี่ยต่อรอบ จำนวนรอบที่เล่นได้ต่อชั่วโมง
- บาคาร่า: โดยเฉลี่ยแล้ว บาคาร่าหนึ่งรอบใช้เวลาประมาณ 30-45 วินาทีในการแจกไพ่และตัดสินผล ทำให้สามารถเล่นได้ประมาณ 80-120 รอบต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเร็วของดีลเลอร์และผู้เล่น
เสือมังกร: ด้วยกติกาที่เรียบง่ายและใช้ไพ่เพียงใบเดียว เสือมังกรจึงเป็นเกมที่เร็วที่สุด โดยหนึ่งรอบใช้เวลาเพียงประมาณ 15-25 วินาที ทำให้สามารถเล่นได้มากถึง 150-240 รอบต่อชั่วโมง
อัตราการชนะและความได้เปรียบของเจ้ามือ (House Edge)
การเข้าใจอัตราการชนะและความได้เปรียบของเจ้ามือ (House Edge) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกเกมที่ให้โอกาสทำกำไรในระยะยาวได้ดีที่สุด
วิเคราะห์อัตราการชนะในบาคาร่าแต่ละฝั่ง (Player, Banker, Tie)
ในบาคาร่า อัตราการจ่ายเงินและ House Edge จะแตกต่างกันไปตามฝั่งที่คุณเลือกเดิมพัน:
- ฝั่งผู้เล่น (Player):
- อัตราจ่าย: 1:1 (แทง 100 ได้ 100)
- House Edge: ประมาณ 1.24%
- เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมี House Edge ต่ำ
- ฝั่งเจ้ามือ (Banker):
- อัตราจ่าย: 1:0.95 (แทง 100 ได้ 95 หักคอมมิชชั่น 5%)
- House Edge: ประมาณ 1.06%
- เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในแง่ของ House Edge ที่ต่ำที่สุด ทำให้มีโอกาสชนะในระยะยาวสูงกว่าฝั่งผู้เล่นเล็กน้อย
- ฝั่งเสมอ (Tie):
- อัตราจ่าย: 1:8 หรือ 1:9 (ขึ้นอยู่กับคาสิโน)
- House Edge: สูงมาก ประมาณ 14.36% (สำหรับอัตราจ่าย 1:8) หรือ 4.84% (สำหรับอัตราจ่าย 1:9)
- แม้จะมีอัตราจ่ายสูง แต่โอกาสที่จะออกเสมอมีน้อยมาก ทำให้ House Edge สูงลิบลิ่ว ไม่แนะนำให้เดิมพันฝั่งนี้บ่อยๆ
วิเคราะห์อัตราการชนะในเสือมังกร (เสือ, มังกร, เสมอ)
เช่นเดียวกับบาคาร่า เสือมังกรก็มี House Edge ที่แตกต่างกันไปในแต่ละตัวเลือกการเดิมพัน:
- ฝั่งเสือ (Tiger) / ฝั่งมังกร (Dragon):
- อัตราจ่าย: 1:1
- House Edge: ประมาณ 3.73%
- สูงกว่าบาคาร่าเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเกมเสือมังกร
- ฝั่งเสมอ (Tie):
- อัตราจ่าย: 1:10 หรือ 1:11 (ขึ้นอยู่กับคาสิโน)
- House Edge: สูงมาก ประมาณ 32.77% (สำหรับอัตราจ่าย 1:10) หรือ 28.6% (สำหรับอัตราจ่าย 1:11)
- เช่นเดียวกับบาคาร่า การเดิมพันเสมอในเสือมังกรมีความเสี่ยงสูงมากเนื่องจาก House Edge ที่สูงลิบลิ่ว
เปรียบเทียบค่า House Edge ของทั้งสองเกม
เมื่อเปรียบเทียบค่า House Edge ของทั้งสองเกม จะเห็นได้ว่า:
- บาคาร่า (ฝั่ง Banker): มี House Edge ต่ำที่สุดที่ประมาณ 1.06%
- บาคาร่า (ฝั่ง Player): มี House Edge ประมาณ 1.24%
- เสือมังกร (ฝั่ง Tiger/Dragon): มี House Edge ประมาณ 3.73%
- ฝั่งเสมอ (ทั้งสองเกม): มี House Edge สูงที่สุดอย่างมีนัยสำคัญ

เกมไหนให้โอกาสผู้เล่นทำกำไรได้มากกว่าในระยะยาว?
จากข้อมูล House Edge จะเห็นได้ว่า บาคาร่า โดยเฉพาะการเดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker) ให้โอกาสผู้เล่นทำกำไรได้มากกว่าในระยะยาว เนื่องจากมี House Edge ที่ต่ำที่สุด ซึ่งหมายความว่าคาสิโนมีความได้เปรียบน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับผู้เล่น
อย่างไรก็ตาม การเดิมพันฝั่งเสือหรือมังกรในเกมเสือมังกรก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณชื่นชอบความรวดเร็วและเรียบง่ายของเกม แม้ว่า House Edge จะสูงกว่าบาคาร่าเล็กน้อยก็ตาม
สิ่งสำคัญคือการหลีกเลี่ยงการเดิมพันฝั่งเสมอในทั้งสองเกม หากคุณต้องการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว เนื่องจาก House Edge ของการเดิมพันเสมอสูงมากจนไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยง
ความเหมาะสมสำหรับมือใหม่และโอกาสทำเงินอย่างรวดเร็ว
การเลือกเกมที่เหมาะสมกับระดับประสบการณ์และเป้าหมายในการทำเงินเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การเดิมพันของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด
มือใหม่ควรเริ่มจากเกมใดเพื่อเรียนรู้ได้ง่าย?
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่โลกของคาสิโนออนไลน์ และต้องการเกมที่เรียนรู้ได้ง่ายที่สุดเพื่อสร้างความคุ้นเคย เสือมังกร คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ด้วยกติกาที่เรียบง่าย ใช้ไพ่เพียงใบเดียวในการตัดสินผล และไม่มีกฎการจั่วไพ่เพิ่ม ทำให้ผู้เล่นสามารถทำความเข้าใจและเริ่มเล่นได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
ในขณะที่บาคาร่า แม้จะไม่ได้ซับซ้อนมากนัก แต่กฎการจั่วไพ่เพิ่มของฝั่งเจ้ามืออาจทำให้มือใหม่รู้สึกงงเล็กน้อยในตอนแรก หากคุณมีเวลาและต้องการทำความเข้าใจเกมให้ลึกซึ้งขึ้น บาคาร่าก็เป็นเกมที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
สถานการณ์ที่เหมาะกับการเลือกเล่นบาคาร่า vs เสือมังกร
- เลือกเล่นบาคาร่า หากคุณ:
- ต้องการโอกาสในการทำกำไรในระยะยาวที่สูงกว่า (House Edge ต่ำกว่า)
- ต้องการใช้กลยุทธ์การเดิมพันที่หลากหลายและซับซ้อน
- มีเวลาในการเรียนรู้กฎและทำความเข้าใจเกมอย่างลึกซึ้ง
- ชอบเกมที่มีความท้าทายและมีมิติในการเล่นมากกว่า
- เลือกเล่นเสือมังกร หากคุณ:
- เป็นมือใหม่และต้องการเกมที่เรียนรู้ได้ง่ายที่สุด
- ต้องการความรวดเร็วในการเล่นและตัดสินผลในแต่ละรอบ
- ชอบเกมที่เรียบง่าย ไม่ต้องคิดมาก
- ต้องการความตื่นเต้นแบบฉับไว
เกมไหนเหมาะสำหรับคนที่ต้องการ “เล่นไว – ได้เงินไว”?
หากเป้าหมายหลักของคุณคือ “เล่นไว – ได้เงินไว” โดยไม่ต้องการความซับซ้อนของกติกาและเน้นความตื่นเต้นแบบฉับพลัน เสือมังกร คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด ด้วยความเร็วในการตัดสินผลแต่ละรอบที่เหนือกว่าบาคาร่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คุณสามารถวางเดิมพันและรับผลตอบแทนได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การ “ได้เงินไว” ไม่ได้หมายความว่าจะ “ชนะง่าย” เสมอไป การเดิมพันในเกมคาสิโนทุกประเภทมีความเสี่ยงเสมอ และการจัดการเงินทุนอย่างชาญฉลาดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าคุณจะเลือกเล่นเกมใดก็ตาม

วิธีเดิมพัน Baccarat และ เสือมังกร บน FUN88
FUN88 เป็นเว็บคาสิโนออนไลน์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยระบบทันสมัย ปลอดภัย และเกมคาสิโนสดครบครัน โดยเฉพาะ บาคาร่าออนไลน์ และ เสือมังกรออนไลน์ ที่เล่นง่ายและได้เงินจริง
สมัครสมาชิกและฝากเงินง่าย ๆ กับ ฟัน88
เริ่มต้นเล่นบาคาร่าและเสือมังกรกับ ฟัน88 ได้ในไม่กี่ขั้นตอน:
- สมัครสมาชิก ผ่านหน้าเว็บ FUN88 กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบ (ดูคำแนะนำ)
- ยืนยันตัวตน ผ่านอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์
- ฝากเงิน ด้วยช่องทางหลากหลาย เช่น โอนผ่านธนาคาร, TrueMoney Wallet, QR Code (ดูคำแนะนำ)
- โอนเงินเข้ากระเป๋าเกมคาสิโนสด เพื่อใช้วางเดิมพันบาคาร่าและเสือมังกร
เข้าสู่ห้องเกม Baccarat และ เสือมังกร ง่าย ๆ
หลังฝากเงินและโอนเงินเข้ากระเป๋าเกม:
- เลือกเมนู คาสิโนสด บน FUN88
- เลือกผู้ให้บริการดัง เช่น Evolution Gaming, Sexy Baccarat, Asia Gaming
- เลือกเล่น บาคาร่า หรือ เสือมังกร
- เลือกโต๊ะเกมตามงบเดิมพันขั้นต่ำ – สูงสุดที่ต้องการ
ถอนเงินรางวัลหลังจากชนะเดิมพัน
เมื่อคุณชนะเดิมพันบาคาร่า หรือเสือมังกรบน FUN88 การถอนเงินรางวัลเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องรวดเร็วและปลอดภัย ฟัน88 มีระบบถอนเงินง่าย ๆ ผ่านหลายช่องทาง เช่น โอนเข้าบัญชีธนาคาร หรือวอลเล็ทต่าง ๆ โดยทำตามขั้นตอนนี้:
- เข้าสู่ระบบบัญชี FUN88 (ดูคำแนะนำ)
- เลือกเมนู ถอนเงิน
- กรอกจำนวนเงินที่ต้องการถอน ไม่เกินยอดในกระเป๋าหลัก
- เลือกช่องทางถอนเงินที่สะดวก เช่น บัญชีธนาคารที่ลงทะเบียน
- ยืนยันข้อมูลและส่งคำขอถอนเงิน (ดูคำแนะนำ)
FUN88 จะโอนเงินให้ภายในไม่กี่นาทีถึง 24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับช่องทางและเวลาทำการธนาคาร ระบบถอนเงินที่รวดเร็วและปลอดภัยนี้ช่วยให้คุณมั่นใจว่ากำไรจะเข้าถึงคุณทันทีโดยไม่มีปัญหา
สรุป
การเลือกเล่นบาคาร่าและเสือมังกรที่ FUN88 Thai ช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เดิมพันที่น่าตื่นเต้นและโอกาสชนะสูง ด้วยระบบที่ทันสมัย โปรโมชั่นที่คุ้มค่า และบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะมือใหม่หรือมือโปร FUN88 คือเว็บที่คุณไม่ควรพลาด เริ่มสมัครและเล่นวันนี้ เพื่อรับโบนัสสุดพิเศษและเพิ่มโอกาสชนะของคุณทันที
FAQs/คำถามที่พบบ่อย
เสือมังกร เหมาะกับมือใหม่มากกว่า เพราะมีกติกาง่ายมาก ใช้ไพ่แค่ใบเดียวในการตัดสินผล ทำให้เรียนรู้และเริ่มเล่นได้รวดเร็ว
บาคาร่า โดยเฉพาะการเดิมพันฝั่ง “เจ้ามือ (Banker)” มี House Edge (ความได้เปรียบของเจ้ามือ) ต่ำที่สุด ประมาณ 1.06% ซึ่งให้โอกาสทำกำไรในระยะยาวได้ดีกว่าเสือมังกร
ควรหลีกเลี่ยงการเดิมพัน “เสมอ (Tie)” ในทั้งบาคาร่าและเสือมังกรอย่างยิ่ง เพราะมี House Edge สูงมาก ทำให้โอกาสชนะของคุณต่ำลงอย่างมากในระยะยาว